'Chanel' ก้าวสู่แบรนด์แฟชั่นผู้หญิงระดับโลกได้อย่างไร ?

Talkative
'Chanel' ก่อกำเนิดขึ้นโดย มาดาม โคโค่ ชาแนล มีชื่อเต็มว่า Gabrielle Bonheur Chanel เธอเกิดในปี ค.ศ. 1883 ในเมืองเล็กๆ ของฝรั่งเศส และเติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เนื่องจากชีวิตในวัยเด็กของเธอค่อนข้างลำบาก ฐานะทางบ้านยากจน มารดาของเธอเสียชีวิตตั้งแต่ 6 ขวบ โดยทิ้งเธอและพี่น้องอีก 4 คนไว้กับพ่อ หลังจากนั้นไม่นาน พ่อของเธอก็ได้หายตัวไป จนถูกส่งตัวมาอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในแคว้น Auvergn เมื่อเธอเติบโตขึ้น เธอก็หาเลี้ยงชีพด้วยการเย็บผ้า จนกลายมาเป็นหญิงเก่งที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ปฏิวัติแฟชั่นของผู้หญิงในระดับโลกได้
การเปลี่ยนแปลงแฟชั่นหญิงสาวที่ว่านี้ ไม่ใช่แค่การออกแบบเสื้อผ้าสไตล์เรียบหรูเท่านั้น แต่เธอยังได้พลิกความหมายของคำว่า 'แฟชั่น' ไปด้วยการสร้างกฎของตัวเอง ที่เรียบง่ายและทรงพลัง เธอเปลี่ยนแปลงสไตล์การแต่งตัวของตัวเองด้วยการตัดผมบ๊อบสั้น อาบแดดเพื่อให้ผิวเป็นสีแทน อีกทั้งสวมหมวกเบเรต์ จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ใครๆ ต่างก็จดจำเธอได้
ชื่อ Coco Channel นั้นเป็นเชื่อที่เปลี่ยนก่อนที่จะเริ่มต้นอาชีพการเป็นนักร้อง และมีความสัมพันธ์ในฐานะภรรยาน้อยของนายทหารผู้ร่ำรวย ซึ่งนายทหารคนนี้เป็นรักแรกและเป็นนายทุนเปิดร้านขายหมวกแห่งแรกใน Deauville ให้กับเธอ เมื่อปี ค.ศ. 1909 ต่อมา กิจการร้านขายหมวกของเธอเติบโตขึ้นและเป็นที่รู้จักจากการสนับสนุนของ Arthur ชายหนุ่มผู้ร่ำรวยชาวอังกฤษ จากร้านขายหมวก ก็พัฒนามาเป็นเสื้อผ้า และเปลี่ยนเป็นห้องเสื้อชาแนล หรือ The House of Chanel ในปี ค.ศ. 1913 หลังจากนั้น 1 ปี ก็ได้ย้ายมายังเลขที่ 31 ถนน Cambon ในกรุงปารีส
ด้วยความที่เธอเติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านี่เอง ทำให้เธอได้รับอิทธิพลของความเรียบง่าย มีชุดที่อยู่ในโทนสีขาวดำขรึมๆ ของชุดแม่ชี โคโค่จึงได้แนะนำให้กับผู้หญิงได้รู้จักกับเสื้อผ้าที่ใส่สบาย เรียบง่าย แต่มีสไตล์ เธอเป็นคนแรกที่ทำให้ผู้หญิงได้รู้จักกับ Little Black Dress และเสื้อคาร์ดิแกนที่เมื่อสวมใส่แล้วทำให้รู้สึกสบาย อีกทั้งเธอก็ยังได้เปลี่ยนแปลงให้สูททรงตรงและผ้าเจอร์ซีกลายมาเป็นคอลเลกชันสุดคลาสสิกของเธอ นอกจากนั้น มาดามโคโค่ก็ยังได้นำเสนอแฟชั่นเดรสยาวเพียงเข่า นับว่าเป็นการเปิดให้เห็นข้อเท้าของผู้หญิงเป็นครั้งแรกในยุคนั้น จนถึงตอนนี้แฟชั่นดังกล่าวก็ยังคงฮิตติดลมบนมาจนถึงทุกวันนี้
เวลาต่อมา โคโค่ ชาแนล ก็ได้เข้าเป็น Mistress ของ Grand Duke Dimitri แห่งรัสเซีย เธอออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำหอมที่มีชื่อว่า Chanel No. 5 ในปี ค.ศ. 1921  และวางแคมเปญโฆษณาให้เป็น 'A very improper perfume for nicely brought up ladies' ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการออกน้ำหอมโดยใช้ชื่อของดีไซน์เนอร์และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้แบรนด์ Chanel ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่โฮโซของปารีสและลอนดอน
เรื่องราวของเธอยังไม่จบเท่านั้น เมื่อเธอเกือบตกลงที่จะแต่งงานกับดุ๊คแห่งเวสมินเตอร์ ชายหนุ่มผู้ซึ่งร่ำรวยที่สุดในยุโรปสมัยนั้น แต่ด้วยเหตุผลที่ว่า 'There have been several Duchess of Westminster. There is only one Chanel.' จึงทำให้งานแต่งงานไม่ได้เกิดขึ้น ถัดมาจนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กรุงปารีสถูกเข้ายึดโดยนาซีเยอรมัน ทำให้ Chanel ต้องปิดกิจการและหันไปทำงานรับใช้ชาติในฐานะพยาบาล ทำให้เกิดเป็นความสัมพันธ์กับ Hans Gunther von Dicklage เจ้าหน้าที่ระดับสูงของนาซี เมื่อเรื่องถูกรู้เข้า ทำให้ชื่อเสียงของเธอตกต่ำและถูกเนรเทศออกจากปารีสยาวนานกว่า 15 ปี จากนั้นเธอก็ได้หวนกลับเข้าสู่วงการแฟชั่นอีกครั้งในปี ค.ศ. 1954
ชาแนลเสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1971 ด้วยวัย 87 ปี ขณะที่กำลังออกแบบคอลเลกชันฤดูใบไม้ผลิของปีนั้นอยู่ จากนั้น ผลงานของเธอส่งช่วงต่อให้ ฟิลิเป้ กีวโบเช่ ดูแลจนถึงปี ค.ศ. 1977 โดยนิตยสาร Time Magazine ได้ยกให้เธอเป็น 1 ใน 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในศตวรรษที่ 20 ด้วยความเป็นเป็นเฟมินิสต์ เป็นหญิงเก่งที่กล้าแสดงออกและลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิให้กับสตรี ด้วยการนำเอาแบบเสื้อผ้าของผู้ชายมาดัดแปลงให้เป็นเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงยุคใหม่ โคโค่ต้องการเปลี่ยนการแต่งกายในชุดคอร์เซตอันรัดตึง มาเป็นกางเกง ซึ่งนับว่าเป็นเครื่องแต่งกายต้องห้ามสำหรับผู้หญิงในตอนนั้น ด้วยการออกแบบของเธอ
"Elegance is not the prerogative of those who have just escaped from adolescence,
but of those who have already taken possession of their future."
- Coco Chanel
ปัจจุบัน แบรนด์ 'Chanel' อยู่ภายใต้การบริหารงานของ Alain Wertheimer และ Gerard Wertheimer ที่เป็นหลานของ Pierre Wertheimer ผู้ร่วมก่อตั้ง House of Channel มี คาร์ล ลาเกอร์ฟิลด์ นั่งเก้าอี้ Artistic Director  ดีไซน์เนอร์ชาวเยอรมันเป็นผู้ดูแลการออกแบบผลิตภัณฑ์ทั้งหมด โดยเป็นศิลปินอีกหนึ่งคนที่สามารถสืบต่อสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของมาดามชาแนลและนำมาประยุกต์ในงานของเขาได้อย่างดูดี ลงตัว
ภาพถ่ายของ โคโค่ ชาแนล พร้อมกับบุหรี่หน้ากระจกเงา ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้เกิดแรงบันดาลจนมีผลิตภัณฑ์ออกมามาย โดยผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นจะมีสัญลักษณ์ CC ของ Channel , กระเป๋าลายข้าวหลามตัดที่มีโซ่พันสายคล้องไหล่ , เสื้อแจ็คเก็ตที่มีซับในเป็นผ้าไหมพิมพ์ลายชาแนล หรือกระดุมเหรียญที่พิมพ์ลายเป็นดอก Camillia
ถึงแม้ว่าตอนนี้ โค่โค่ ชาแนล จะจากโลกนี้ไปถึง 42 ปีแล้ว แต่สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอกว่า 100 ปีก็ยังคงเป็นอมตะ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสินค้าของชาแนลหลายๆ คอลเลคชันยังได้รับความนิยมจนกลายเป็น 'timeless classic' อย่าง กระเป๋าลายข้าวหลามตัดรุ่น 2.55 ที่ชื่อมีที่มาจากเดือนและปีที่เปิดตัวกระเป๋ารุ่นนี้ คือ เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1955 หรือจะเป็นแจ็คเก็ตผ้า tweed ที่เดินเส้นด้วยไหมทอง หรือไหมเงิน มีราคาตัวละ 1 แสนหกหมื่นบาท ชุดสูทมีราคาอยู่ที่ 2 แสนบาทขึ้นไป และกระเป๋าที่มีราคาย่อมเยาว์ที่สุด จะอยู่ที่ประมาณ 4 หมื่นบาท ไปจนถึงระดับหลายแสนบาท อีกทั้งราคาที่สูงลิ่วก็จะอยู่ในรุ่น Limited edition
ไม่ใช่แค่สินค้าของชาแนลเท่านั้น แต่ตัวตนของชาแนลยังถูกสะท้อนผ่าน 'ช้อป' ที่ต้องตกแต่งด้วยรูปแบบเดียวกันทั่วโลก เพื่อให้ลูกค้าได้รับความรู้สึกที่เหมือนกัน โดยยังสะท้อนความหรูหราในสไตล์ชาแนล อาทิ วัสดุเคลือบผนังเป็นลายคล้ายกับผ้า tweed หรือห้องลองเสื้อผ้าที่ตกแต่งด้วยงาช้างปลอม หรือชั้นวางสินค้าที่เคลือบด้วยผ้าไหม ไปจนถึงสินค้าที่จะถูกดิสเพลย์ภายใต้หลัก 'reachable' เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงและสามารถลองสินค้าได้ทุกชิ้น โดยในช้อปก็จะมีพนักงานของชาแนลที่มีชื่อเรียกว่า 'fasion assistant' พนักงานขายเครื่องสำอางเรียกว่า 'beauty assistant' โดยแต่ละคนก็จะผ่านการอบรมเทคนิคการขาย รู้จักสินค้า เข้าใจแบรนด์ ไปจนถึง Corporate Orientation Program นี่จึงเป็นสูตรแห่งความสำเร็จของ 'Chanel' มาจนถึงทุกวันนี้
MORE READ
COMMENT