"HOMESTAY" ที่สุดของภาพยนตร์แฟนตาซีกับการรอคอยที่คุ้มค่า

แทบไม่อยากคาดหวังเอาไว้สูงเมื่อเห็นตัวอย่าง ร่างที่ 1 ของภาพยนตร์ เรื่อง HOMESTAY ที่ว่ากันว่านี่เป็นภาพยนตร์แนวทริลเลอร์แฟนตาซีเรื่องแรกจาก GDH โดยได้ผู้กำกับฝีมือดี อย่าง โอ๋ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ที่เคยฝากผลงานมากมายเอาไว้ให้คนดูหนังไทยได้จดจำ ไม่ว่าจะเป็น ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ , แฝด , สี่แพร่ง , ห้าแพร่ง , คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์ ตอน ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง จนมาถึงเรื่องล่าสุดที่ว่าด้วยวิญญาณเร่ร่อนที่ได้รับรางวัลให้มาใช้ชีวิตในร่างโฮมสเตย์

เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว ที่โอ๋ ภาคภูมิไม่ได้มีผลงานให้แฟนหนังไทยได้ติดตาม แต่ใครจะรู้ล่ะว่าช่วงเวลาที่หายไปเขาได้แอบไปปล่อยของอะไรไว้บ้าง ซึ่งเมื่อช่วงวานนี้ทีมงานบูมแชนแนลก็ได้ไปร่วมงานกาล่า ภาพยนตร์ เรื่อง HOMESTAY ณ ลานแฟชั่นฮอล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน มีนักแสดงนำ อย่าง เจมส์ ธีรดนย์ , เฌอปรางค์ อารีย์กุล , นพชัย ชัยนาม , สู่ขวัญ บูลกุล , เบสท์ ณัฐสิทธิ์ และวิโรจน์ ควันธรรม ตบเท้าเข้าให้สัมภาษณ์กับพี่ๆ สื่อมวลชนกันอย่างพร้อมหน้า บรรยากาศโดยรอบก็คราค่ำไปด้วยแฟนคลับที่ตามมาให้กำลังใจนักแสดงคนโปรดของพวกเขาอย่างล้นหลาม ทำความเอาความเย็นภายในศูนย์การค้าจางหายกลายเป็นความอบอุ่นขึ้นมาทันที

กิมมิคของการเปิดตัวหนังไม่ใช่แค่การขึ้นไปให้กำลังใจของกลุ่มเพื่อนโอ๋ , เพื่อนเจมส์ และเพื่อนเฌอปรางค์ ที่ขึ้นมามอบดอกไม้ พูดข้อความเติมเต็มพลังใจเรียกน้ำตาจากนักแสดงนำเท่านั้น หากแต่ฉากหลังไม่ได้เป็นจอ LED กว้างๆ เหมือนอย่างเคย กลับเปลี่ยนมาเป็นอัฒจันทร์เชียร์ที่มีน้องๆ จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยมาแปรเพจเป็นภาพต่างๆ ประกอบการสัมภาษณ์บนเวที ซึ่งฉากการแปรเพจนี้นับว่าเป็นฉากไฮไลท์ฉากหนึ่งที่อยู่ภายในหนัง ใครอยากจะเห็นแบบเต็มๆ ต้องเข้าไปดูในโรงภาพยนตร์กันนะ

HOMESTAY กับเวลา 100 วันที่ต้องหาคำตอบ

'มึงได้รางวัลนะ' ผู้ชายท่าทางลึกลับที่เรียกตัวเองว่า ผู้คุม (นพชัย ชัยนาม) บอกผม ในขณะที่เรายืนประจันหน้ากันบนผนังตึกของโรงพยาบาลที่หมุนพลิกราวกับแรงโน้มถ่วงกลับด้าน! ผู้คุมไม่รอให้ผมปะติดปะต่อเรื่องราวในหัว เขากระชากคอเสื้อผมให้มาฟังคำอธิบายถึงรางวัลที่วิญญาณเร่ร่อนอย่างผมได้รับ นั่นก็คือการได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งในร่างของเด็กม.ปลายที่ชื่อ มิน (ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) ที่นอนนิ่งอยู่ในตู้เก็บศพของโรงพยาบาลแห่งนี้ จะว่าไปการได้มาอยู่ในร่างใหม่ ก็ไม่ต่างอะไรกับการอยู่โฮมสเตย์ คืออยู่ได้แค่ชั่วคราว แถมยังไม่ได้อยู่ฟรีๆ เพราะผมต้องหาคำตอบให้ได้ภายใน 100 วัน ว่า "มินตายเพราะใคร" ถ้าตอบไม่ได้ ผมจะต้องตายและจากร่างโฮมสเตย์นี้ไปตลอดกาล

เอาเข้าจริงๆ ผมก็ไม่คิดว่าจะอินกับการอยู่ในร่างโฮมสเตย์นี้ซักเท่าไหร่ การมีครอบครัวใหม่ มีเพื่อนใหม่ ก็ไม่ทำให้หัวใจเต้นแรงเท่าการได้มีความรักครั้งใหม่ ผมได้รู้จักกับ พาย (เฌอปราง อารีย์กุล) พี่รหัสของมิน ผู้หญิงที่ทำให้ผมอยากอยู่ในร่างโฮมสเตย์นี้ตลอดไป แต่เวลา ชีวิต และความรัก เป็นเหมือนรางวัลที่สวรรค์ให้ผมมาแค่ชั่วคราว ผมจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อตอบคำถามผู้คุมให้ได้ว่า “มินตายเพราะใคร” ก่อนที่เวลาชีวิตในร่างโฮมสเตย์ของผมจะหมดลง

ความสนุกที่เสมือนสวรรค์ให้รางวัลมา

ในความคิดเห็นของตัวเองจากที่ได้ไปดู รู้สึกชอบในความกลมกล่อมที่ไม่มาก หรือน้อยจนเกินไป งาน CG ละเอียด งานดราม่าในเรื่องความสัมพันธ์เป็นของที่ต้องมี นักแสดงดูจริงใจดี ภาพรวมมันทำให้สัมผัสได้ถึงความเป็นมนุษย์มากๆ ในหนังเรื่องนี้

ให้คะแนน 9/10

ด้วยเนื้อหาที่ของเดิมออกไปทางแนววรรณกรรมญี่ปุ่น แต่นำมาดัดแปลงให้อยู่ในบริบทแบบไทยๆ ดาร์คๆ ซึ่งจริงๆ แล้วในเวอร์ชั่นที่อนิเมะก็ไม่ได้ว่าจะสดใสสักเท่าไหร่ ชอบตรงที่เรื่องมีสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความหมายในแบบต่างๆ เก็บใจความที่เป็นวรรณกรรมได้อย่างละเอียดไม่แพ้เวอร์ชั่นอนิเมะเลย และถึงวิธีการในการเล่าจะค่อนข้างแตกต่างกันมาก แต่ก็มีเสน่ห์ดี

คาแรคเตอร์ของเจมส์ หรือของเฌอ ก็ถือว่าไม่ทำให้ผิดหวัง บทแม่ของคุณสู่ขวัญก็ซับซ้อนไม่ธรรมดาจริงๆ บทของเบสท์ที่เล่นเป็นพี่ชาย ถึงจะออกน้อยแต่พีคไม่ใช่ย่อย ส่วนผู้คุมก็ดีอยู่นะ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหนก็โอเค เพียงแต่รู้สึกว่าบทบาทของผู้คุมยังไม่ค่อยทรงพลังเท่าไหร่ในแง่ของการเล่าเรื่อง อาจเพราะด้วยประเด็นของหนังเรื่องนี้ที่สื่อสารออกมา ถึงแม้จะเคยถูกเล่ามาก่อนเมื่อสิปปีที่แล้ว แต่ยังพอที่จะเอามาเล่าให้คนในยุคนี้ฟังได้อย่างทันสมัยอยู่ในเรื่องของ "การเห็นคุณค่าของชีวิต" แต่สำหรับที่ไปดูยังรู้สึกว่าประเด็นมันเบาไปมากเมื่อถูกเล่าตอนนี้ ซึ่งคนอื่นๆ ที่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนอาจจะคิดมากกว่านี้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และวิธีคิดของแต่ละคน

โดยภาพรวมถือว่าหนังเรื่องนี้สอบผ่าน สนุก ได้อะไร และควรเข้าไปดูในโรงเป็นอย่างยิ่ง

MORE READ
COMMENT