สำนักข่าว CNN ได้จัดอันดับ 50 ของหวานสุดอร่อยจากทั่วโลก ที่คัดเลือกโดยทีมงาน CNN และเจน โรส สมิทธ (Jen Rose Smith) เชฟขนมหวานที่ผันตัวมาเป็นนักเขียนสายอาหารและนักเดินทาง เพราะไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้นทำให้เราประทับใจเมื่อเดินทางไปชมและสัมผัส แต่อาหารการกินก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวจดจำและอยากกลับไปสัมผัสรสชาติความเป็นพื้นถิ่นนั้นๆ อีกในอนาคต ซึ่งเจนได้มีโอกาสเดินทางตระเวนชิมของหวานจากทั่วทุกมุมโลก ที่ในครั้งนี้ก็มีขนมหวานสัญชาติไทย อย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง และทับทิมกรอบติดโผความอร่อยเข้าไปด้วย
1. [อเมริกาใต้] อัลฟาโฆเรส (Alfajores)
เป็นเค้กคาราเมลของสเปน มีต้นกำเนิดมาจากฝั่งตะวันออกกลาง สามารถหาลิ้มลองได้ทุกร้านเบเกอรีในอาร์เจนตินาและโปรตุเกส ขนมชนิดนี้มีลักษณะเป็นแป้งที่อบเนย สอดไส้ด้วยครีมคาราเมลที่ทำจากถั่วฆาบลังโก้ หากสั่งมากินคู่กับเครื่องดื่มที่เราชื่นชอบจะเป็นอะไรที่เข้ากันได้ดีมาก
2. [ออสเตรีย] อัฟเฮลสตรูดัล (Apfelstrudel)
เป็นขนมดั้งเดิมของชาวเวียนนา นิยมเป็นอยากมาในประเทศแถบยุโรป คาดว่าได้รับอิทธิพลมาจาก ขนมบัคลาวา (Baklava) ของตุรกี เป็นขนมที่มีไส้หลากหลายรูปแบบ แต่ที่ได้รับความนิยมก็คงจะเป็นไส้แอปเปิ้ล เรียกได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติของออสเตรียเลยทีเดียว
3. [ตุรกี] บัคลาวา (Baklava)
ขนมชนิดนี้เป็นขนมชั้นเลิศที่เกิดขึ้นบนเส้นทางสายไหมในย่านเมืองโบราณกาเซ็นเทรป คาดกันว่ามีต้นกำเนิดมาจากชาวเอเชียกลาง - มองโกล ตามบันทึกโบราณได้ระบุไว้ว่า สุลต่านจะแจกจ่ายขนมบัคลาวาให้แก่ทหารองครักษ์ของตนในทุกวันที่ 15 ของเดือนรอมฎอน มีส่วนประกอบ คือ ผงถั่วพิสตาชิโอ แป้ง และน้ำตาล โดยจะรีดแป้งให้เป็นแผ่นๆ ความหนาเท่ากับแผ่นกระดาษ แล้ววางซ้อนกันก่อนที่จะทาเนยและโรยถั่ววอลนัต ถั่วพิสตาชิโอ ตัดออกเป็นก้อน แล้วจึงนำไปอบ
4. [เยอรมนี] เค้กแบล็กฟอเรสต์ (Black Forest Cake)
ขนมชนิดนี้เกิดขึ้นช่วงต้นยุค 1900 ทางตอนใต้ของเยอรมนี มีส่วนประกอบของเค้กช็อกโกแลต , วิปครีม, เชอร์รี่ และเหล้าเชอร์รี่แบบเยอร์มัน นิยมนำมากินคู่กับเครื่องดื่ม อย่าง กาแฟ จะทำให้ได้รสสัมผัสที่เข้ากันเป็นอย่างดี
5. [ตะวันออกกลางและตุรกี] บอร์มา (Borma)
ขนมชนิดนี้มีลักษณะคล้ายกับขนมบัคลาวาแบบม้วนที่เอาไปทอด หรือไปอบ แล้วราดด้วยถั่วพิสตาชิโอบดและไซรัปที่มีรสหวาน
6. [สหรัฐอเมริกา] บราวนี (Brownies)
เป็นขนมลูกครึ่งระหว่างเค้กกับคุกกี้ มีส่วนผสมหลักๆ ได้แก่ ช็อกโกแลต , แป้ง , เนย และน้ำตาล นิยมสั่งมากินคู่กับกาแฟ หรือไอศกรีม ราดบนขนมด้วยวิปครีม หรือน้ำตาลไอซิ่งจะทำให้ได้รสสัมผัสที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี
7. [ซิซิลี-อิตาลี] คาโนลี (Cannoli)
ขนมชนิดนี้มีต้นกำเนิดอยู่ในซิซิลี คำว่า แคนโนลี หมายถึง ท่อเล็กๆ ที่นำแป้งมาม้วนพันเป็นกรวย จากนั้นก็นำไปทอดจนสุกกรอบ รอให้เย็นแล้วจึงสอดไส้ด้วยชีสริคอตต้าและตกแต่งด้วยช็อกโกแลต หรือผลไม้สด
8. [สวีเดน] คาร์ดามัม บัน (Cardamom Buns)
ขนมชนิดนี้เป็นแป้งอบที่โรยหน้าด้วยน้ำตาลและเครื่องเทศ
9. [สิงคโปร์] ลอดช่อง (Cendol)
ขนมชนิดนี้เป็นขนมท้องถิ่นที่แพร่หลายอยู่ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้แป้งข้าวเจ้าเป็นวัตถุดิบหลัก ว่ากันว่ามีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินโดนีเซีย มีชื่อว่า "เจ็นดล" ก่อนจะเข้ามาได้รับความนิยมอยู่ในประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้
10. [สหรัฐอเมริกา] คุกกี้ช็อกโกแลตชิป (Chocolate Chip Cookies)
เป็นขนมอบแบบคุกกี้ โรยหน้าด้วยช็อกโกแลตชิป
11. [ฝรั่งเศส] ช็อกโกแลตมูส (Chocolate Mousse)
เป็นขนมหวานสูตรเย็นที่กินตอนร้อนๆ จะเป็นอะไรที่เหมาะมาก มีส่วนประกอบ คือ ดาร์กช็อกโกลต , ไข่ไก่ , เนย , น้ำตาล
12. [สหรัฐอเมริกา] เค้กมะพร้าว (Coconut Cake)
ขนมหวานชนิดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทางฝั่งตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา มีลักษณะเป็นสปอนจ์เค้กฟูนุ่ม สอดไส้ครีมเป็นชั้นๆ แล้วโรยหน้าด้วยเนื้อมะพร้าว
13. [โมร็อกโก] กอง เดอ กาแซล (Cornes de Gazelle)
เป็นแป้งอบที่สอดไส้ด้วยอัลมอนด์ผสมกลิ่นส้ม
14. [ฝรั่งเศส] เครมบรูเล (Cr?me Br?l?e)
ขนมชนิดนี้มีลักษณะเป็นคัดสตาร์ดนุ่มๆ มีกลิ่นของน้ำตาลไหม้ นิยมเสิร์ฟในด้วยเซรามิก เมื่อได้ลองชิมจะให้สัมผัสที่นุ่มลิ้น มีความนุ่มคล้ายไข่ตุ๋น
15. [ฮ่องกง] ทาร์ตไข่ (Dan Tats)
เป็นขนมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในฮ่องกง แต่ไม่ได้มีถิ่นกำเนิดในประเทศนี้ ได้รับอิทธิพลมาจากทางโปรตุเกส มีส่วนประกอบหลัก คือ แป้งพายรอบนอก ตรงกลางเป็นสังขยาไข่ แล้วนำไปอบจนหอมกรอบ มีกลิ่นเนยและไข่ ให้รสสัมผัสที่นุ่มลิ้น
16. [สหรัฐอเมริกา] โดนัท (Doughnuts)
เป็นขนมที่ผ่านการนำไปทอด หรืออบ มีลักษณะคล้ายกับขนมเค้ก มีจุดเด่นอยู่ที่รูตรงกลาง มีหลายรสชาติ อาจเป็นหน้าน้ำตาล , ช็อกโกแลต , ครีมสตรอว์เบอร์รี่ และอื่นๆ อีกหลากหลาย
17. [ฮังการี] เอสเตอร์ฮาซี ทอร์ดา (Eszterhazy Torta)
ขนมเค้กอัลมอนด์ที่ราด้วยครีมวานิลลาและช็อกโกแลต ชื่อขนมชนิดนี้ถูกตั้งขึ้นตามชื่อของกษัตริย์ คือ เจ้าชายพอลที่ 3 นาม อันโตน เอสเตอร์ฮาซี เดอ กาลันธา (Prince Paul III Anton Esterh?zy de Gal?ntha) ตัวขนมเป็นเนื้อเค้กที่สลับกันเป็นชั้น ส่วนผสมหลัก คือ บัตเตอร์ครีมและอัลมอนด์เมอแรงก์
18. [ลาตินอเมริกา] แฟลน (Flan)
เป็นขนมที่มีลักษณะเป็นคาราเมลคัสตาร์ด หรือคัดสตาร์ดพุดดิ่ง ทำมาจากไข่ น้ำตาล และนม
19. [ฝรั่งเศส] กาโตว์ ฟองดอง โอ ช็อกโกลา (G?teau Fondant au Chocolat)
เป็นขนมช็อกโกแลตลาที่สายขนมหวานต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี
20. [อิตาลี] ไอศกรีมเจลาโต (Gelato)
เป็นของหวานที่มีลักษณะเป็นไอศกรีมแบบอิตาลี มีส่วนผสมพื้นฐานเหมือนกับไอศศรีมทั่วไป แต่มีแต่งให้รสชาติเป็นผลไม้และเมล็ดพืชที่นำมาบดเป็นครีมข้น ส่วนสัมผัสของเนื้อไอศกรีมเจลาโตจะเข้มข้นกว่าปกติและมีรสชาติหวานน้อย
21. [อินเดีย] กุหลาบจามัน (Gulab Jamun)
นับว่าเป็นของหวานที่ขาดไม่ได้ในงานเลี้ยงสำคัญของอิสลาม หรือพราหมณ์ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่ง งานวันเกิด หรือเทศกาลสำคัญทางศาสนาของอินเดีย มีส่วนผสมที่ทำจากนมนำมาต้มด้วยไฟอ่อนให้เหลือแต่ไขมัน ก่อนที่จะนำมานวดเป็นก้อนกลมๆ แล้วนำไปทอดจนสุก เคลือบด้วยน้ำเชื่อม และโรยเครื่องเทศ
22. [ญี่ปุ่น] ชีสเค้กแบบญี่ปุ่น (Japanese Cheesecake)
ขนมชนิดนี้เป็นเค้กที่มีส่วนผสมของชีส จะทำให้ได้สัมผัสที่เบา ฟู และนุ่ม แต่ยังได้รสสัมผัสและชีสอย่างเต็มๆ
23. [แอฟริกาตะวันออก] คาชาตา (Kashata)
ขนมชนิดนี้เป็นถั่วเคลือบน้ำตาลที่เป็นลูกผสมระหว่างลูกอมและคุกกี้ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในฝั่งแอฟริกาตะวันออก โดยเฉพาะในประเทศแทนซาเนีย ยูกันดา และเคนยา
24. [ฮังการี] คิฟลี (Kifli)
เป็นขนมขบเคี้ยวรูปพระจันทร์เสี้ยวที่ทำจากแป้งหมักยีสต์คิฟลี ทาด้วยเนยสด หรือราดด้วยแยม น้ำผึ้ง นิยมนำมากินคู่กับกาแฟ
25. [ลิแวนต์] คนาฟี (Knafeh)
เป็นของหวานดั้งเดิมของชาวอาหรับ มีลักษณะเป็นขนมอบคล้ายกับเส้นก๋วยเตี๋ยวที่แช่ในน้ำเชื่อม นิยมกินคู่กับชีส ครีม และโรยด้วยถั่ว
26. [ฝรั่งเศส] กวีญามันน์ (Kouign Amann)
ขนมชนิดนี้เป็นของชาวเบรอตงซึ่งอยู่ในประเทศฝรั่งเศส มีรูปลักษณะเป็นเค้กที่รูปร่างกลมแบน ผิวกรอบ ทำจากแ้งโดว์ มีเนยและโรยน้ำตาลสลับกันเป็นชั้น แล้วม้วนพับเข้าไปในลักษณะคล้ายกับแป้งพาย จากนั้นก็นำไปอบจนเนยดันแป้งออกมา ส่วนน้ำตาลก็จะกลายเป็นน้ำเชื่อมเหนียวข้น
27. [อินเดีย] คุลฟี (Kulfi)
ของหวานชนิดนี้เป็นไอศกรีมในแบบดั้งเดิมของทวีปอินเดีย เหมือนกับไอศกรีมโบราณเสียบไม้ของไทย เพียงแต่ทำมาจากนมสดที่เคี่ยวจนข้นและมัน แต่งรสด้วยน้ำตาลและเติมกลิ่นต่างๆ ให้ดูน่ากินเข้าไปด้วย
28. [ฝรั่งเศส] ทาร์ตมะนาว (Lemon Tart)
เป็นขนมที่มีลักษณะเป็นทาร์ตสำหรับสายขนมที่ชื่นชอบความเปรี้ยว มีส่วนประกอบของครีมมะนาวที่ให้ความหอมหวาน มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับแป้งทาร์ตที่กรอบนอก กินแล้วช่วยเพิ่มความสดชื่นในช่วงที่อากาศร้อนได้
29. [ออสเตรีย] ลินเซอร์ ทอร์ต (Linzer Torte)
เป็นขนมที่ตั้งชื่อตามเมืองลิน ในประเทศออสเตรีย ว่ากันว่าขนมชนิดนี้เป็นขนมเค้กที่มีความเก่าแก่มากที่สุดในโลก มีส่วนประกอบเป็นแป้งอบผสมเนยจืด , ไข่แดง , น้ำมะนาว , อบเชย และถั่วลิสง ขนมลินเซอร์ ทอร์ตนิยมกินกันในวันหยุดสำคัญๆ ของออสเตรีย , ฮังการี , สวิตเซอร์แลนด์ และเยอรมนี
30. [โมร็อกโก] มเฮนจา (Mhanncha)
ขนมชนิดนี้เป็นขนมปังถั่วอบอสมลูกเกดและกลิ่นส้ม มีลักษณะขดตัวเป็นวงกลมคล้ายงู
31. [ตะวันออกกลาง] มามัวร์ (Maamoul)
เป็นขนมโบราณของชาวอาหรับ มีส่วนผสมของอินทผาลัมและถั่วชนิดต่างๆ ขนมมามัวร์นิยมเสิร์ฟกันในวันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน กินคู่กับกาแฟและช็อกโกแลต เป็นขนมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในแถบลิแวนต์
32. [ซูดานใต้] มันดาซี (Mandazi)
เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ดาโบ หรือ ดาเอีย มีลักษณะเป็นขนมทอดสอดไส้หวาน มีส่วนประกอบของกะทิและถั่วชนิดต่างๆ นิยมเสิร์ฟตอนที่ร้อน หรือในอุณหภูมิห้อง แนะนำให้กินคู่กับชา หรือน้ำผลไม้
33. [รัสเซีย] มาโดวิค (Medovik)
ว่ากันว่าเป็นของหวานจากก้นครัวในประเทศรัสเซียที่ทำขึ้นถวายแด่จักรพรรดินี อย่าง พระองค์เจ้าเอลิซาเบธ อเล็กเซเยฟนาแห่งรัสเซีย พระองค์เป็นภริยาของจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ขนมชนิดนี้มีลักษณะเป็นขนมเค้กชั้นๆ ที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งสลับกับครีมเปรี้ยว หรือบัตเตอร์ครีม โรยหน้าด้วยถั่ว ผลไม้แห้ง แตกต่างกันตามแต่ละสูตร
34. [สหรัฐอเมริกา] นิวยอร์ก ชีสเค้ก (New York Cheesecake)
ขนมชนิดนี้เป็นชีสเค้กสไตล์นิวยอร์กที่มีความหนักแน่นของชีส นิยมกินคู่กับวิปครีม , ช็อกโกแลต หรือราดด้วยแยมสตรอว์เบอร์รี , ราสป์เบอร์รี
35. [เนเธอร์แลนด์] โอลลีโบเลน (Oliebollen)
เป็นขนมท้องถิ่นของชาวเนเธอร์แลนด์ มีลักษณะเป็นแป้งกลมสอดไส้ด้วยของหวาน อาทิ วิปครีม หรือผลไม้กวน จากนั้นก็นำไปทอดจนสุก ราดด้วยไอซิ่
36. [ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์] พัฟโลวา (Pavlova)
ถึงจะยังไม่รู้แน่ชัดว่าขนมหวานชนิดนี้ชาติใดเป็นผู้คิดค้นกันแน่ แต่พัฟโลวาตั้งตามชื่อของนักบัลเลต์ชาวรัสเซียที่ได้มาทำการแสดง ณ ออสเตรียและนิวซีแลนด์ในช่วงยุค 1920 มีขนมที่มีฐานเป็นเมอแรงก์ แต่งหน้าด้วยวิปครีมและผลไม้สด
37. [ลาตินอเมริกา-สเปน-ฟิลิปปินส์] โพลวอโรน (Polvor?nes)
เป็นขนมที่ได้รับความนิยมช่วยวันหยุดของสเปน ไปจนถึงอาณานิคมเดิมในแถบลาตินอเมริกาและฟิลิปปินส์ ขนมมีลักษณะเป็นคุกกี้เคลือบน้ำตาล สอดไส้ด้วยถั่ว รสสัมผัสมีทั้งแข็ง นุ่ม และกรอบอยู่ในชิ้นเดียว
38. [ตะวันออกกลาง] อาตาเยฟ (Qatayef)
เป็นอีกหนึ่งขนมหวานที่ชาวอาหรับนิยมเสิร์ฟในช่วงเดือนรอมฎอน มีลักษณะเหมือนเกี๊ยว ทำจากแป้งแพนเค้ก ห่อด้วยครีมชีสและถั่วหลากชนิด
39. [ฮังการี] รีโก แจงซี (Rig? Jancsi)
ของหวานชนิดนี้เป็นเค้กมูสช็อกโกแลตสไตล์ฮังการี มีลักษณะเป็นสปอนจ์เค้กสอดไส้ด้วยมูสเค้กราดช็อกโกแลต
40. [อิหร่าน] ไอศกรีมแซฟรอน (Saffron Ice Cream)
เป็นไอศกรีมในแบบชาวเปอร์เซียที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้ถั่วพิสตาชิโอและกลิ่นกุหลาบ สามารถกินได้เดี่ยวๆ หรือกินร่วมกับแผ่นเวเฟอร์ประกบกันเป็นแซนด์วิชไอศกรีมได้
41. [สาธารณรัฐประชาชนจีน] ขนมไข่หงส์ (Sesame Balls)
เป็นแป้งทอดที่มีลักษณะคล้ายกับไข่นกกระทาในบ้านเรา แต่มีขนาดใหญ่กว่าและเนื้อแป้งมีส่วนผสมของงาที่สอดไส้หวาน
42. [Xue Hua Bing, ไต้หวัน] น้ำแข็งหิมะ (Snow Ice)
เป็นน้ำแข็งไสสไตล์ใต้หวัน มีจุดเด่นอยู่ที่น้ำแข็งเกล็ดละเอียด มีของเชื่อมและผลไม้สดสวยให้สดชื่นทุกครั้งที่กิน
43. [สหรัฐอเมริกา] พายเชอร์รี (Sour Cherry Pie)
มีลักษณะเป็นพายกรอบที่สอดไส้ด้วยแยมเชอร์รี ด้านบนตกแต่งด้วยลูกเชอร์รีสด
44. [ไทย] ข้าวเหนียวมะม่วง (Sticky Rice with Mango)
เป็นขนมหวานยอดนิยมของไทย นิยมกินกันในช่วงหน้าร้อน มีส่วนประกอบของข้าวเหนียวที่นำไปมูนกับหัวกะที ใส่เกลือและน้ำตาลทรายขาว กินคู่กับมะม่วงสุก อย่าง พันธุ์อกร่อง หรือพันธุ์น้ำดอกไม้ ราดด้วยกะทิและถั่วบางชนิด
45. [อังกฤษ] เค้กพุดดิ้ง (Sticky Toffee Pudding)
ของหวานชนิดนี้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับชื่อ มีลักษณะสปอนจ์เค้ก ราดด้วยซอสทอฟฟี่ นิยมเสิร์ฟพร้อมกับคัสตาร์ดพุดดิ้ง หรือไอศกรีมวานิลลา
46. [ฝรั่งเศส] ทาร์ตตาแตง (Tarte Tatin)
เป็นขนมหวานสัญชาติฝรั่งเศสในแบบ upside-down ที่นิยมใช้แอปเปิ้ลเป็นส่วนผสมหลัก จากเรื่องเล่าว่ากันว่าขนมชนิดนี้เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของเชฟขนมหวานที่อยู่ในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง เชฟคนนั้นได้พยายามแก้ไขสูตรไปเรื่อยๆ กลายเป็นว่าขนมที่เธอทำนั้นเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าและคนทั่วๆ ไป
47. [อิตาลี] ทีรามิสุ (Tiramis?)
เป็นขนมหวานชนิดหนึ่งที่มีรสกาแฟ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี มีส่วนประกอบของขนมปังกรอบซาวอยที่จุ่มน้ำกาแฟเอสเพรสโซ แล้วนำไปเรียนเป็นชั้นๆ สลับกับส่วนผสมที่ประกอบด้วย ไข่ น้ำตาล และเนยมัสคาร์โปเนตีเข้าด้วยกัน จากนั้นก็แต่งกลิ่นรสด้วยผงโกโก้
48. [เม็กซิโกและอเมริกากลาง] เทร์เลชเค้ก (Tres Leches Cake)
ของหวานชนิดนี้เป็นเค้กก้อนหนานุ่มที่มีส่วนผสมของนม 3 ชนิด ได้แก่ นมสด ครีมเทียม และนมข้นหวาน ตกแต่งด้วยครีมและผลไม้สดแล้วแต่สูตร
49. [อังกฤษ] ทรัยเฟิล (Trifle)
ขนมชนิดนี้เป็นขนมสัญชาติอังกฤษที่มีเรื่องราวยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 มีส่วนประกอบ 3 - 4 ชั้น มีส่วนผสมของคัสตาร์ด ผลไม้ สปอนจ์เค้ก เยลลี และวิปครีม ด้านบนราดด้วยคัสตาร์และครีม แต่ในทรัยเฟิลบางชนิดอาจผสมเหล้าเล็กน้อย หรืออาจเป็นน้ำผลไม้เพื่อให้เนื้อเค้กมีความนุ่มขึ้น
50. [ไทย] ทับทิมกรอบ (Tub Tim Krob)
เป็นขนมหวานแบบไทยแท้ที่นิยมกินมากในฤดูร้อน ขั้นตอนการทำเริ่มด้วยนำแห้วไปต้มจนสุก แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ คลุกด้วยแป้งมันผสมสีผสมอาหาร จากนั้นก็นำไปต้มจนสุก ใส่น้ำเชื่อม กะทิสด ลอยด้วยดอกมะลิ กินแล้วให้ความรู้สึกหวานหอมเย็นชื่นใจ
ที่มา CNN Travel
