หากกล่าวถึงภาพยนตร์ Sci-Fi อวกาศ หลายๆ คนอาจนึกถึงยุคที่มนุษย์ออกเดินทางท่องอวกาศ หรือฉากของกองยานเคลื่อนเข้าใส่กันในสงครามขนาดใหญ่ แต่จะเป็นอย่างไรหากการแสดงเรื่องนี้จะนำเสน่ห์ของหนังโจรกรรม มาผนวกกับหนังอวกาศ จนกลายเป็นละครเวทีการโจรกรรมในอวกาศใน THE GREAT STARCROSS ROBBERY : The STARCROSS-11 Chronicle
ละครเวทีเรื่องนี้เป็นผลงานเขียนบทและกำกับโดย คุณนินาท บุญโพธิ์ทอง ร่วมกับ หน้ากากเปลือย ฝ่ายอุดมศึกษา Naked Masks : Young Pack Action "โดยคอนเซปต์ของ Starcross คือ เมื่อถึงวาระที่โลกสิ้นสลาย มนุษย์จะใช้ยาน Starcross ออกเดินทางไปทั่วจักรวาลเพื่อหาที่พำนักได้ ก็จะมี Starcross 9 กับ Starcross 10 ซึ่งเคยทำมาแล้ว 2 ภาคก่อนหน้านี้ซึ่งแต่ละปีก็จะมีแนวทางที่แตกต่างออกไป เช่น Starcross 9 ก็เป็นแนวเรื่องสั้นวิทยากาศ 3 เรื่อง พอเป็น Starcross 10 ก็เป็นแนวการเมือง ส่วนในปีนี้จะเป็นแนวโจรกรรมปล้นดวงอาทิตย์" คุณนินาทกล่าวถึงที่มาที่ไปของละครเรื่องนี้
คุณนินาท : คือโจทย์การทำงานในครั้งนี้ตั้งใจให้นักแสดงสนุก ได้เล่นกับคาแรคเตอร์ เล่นกับแอ็กชั่นต่างๆ ในขณะเดียวกันพล็อตเรื่องของ Capitalism (ทุนนิยม) เรื่องการพนันโชคชะตา ระบบเศรษฐกิจ หลายสิ่งที่เกิดขึ้นจะมาจากมือที่มองไม่เห็น หรือการจัดสรรปันส่วนทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด เป็น Sci-Fi ที่ตั้งอยู่บนเงื่อนไขของทรัพยากร ซึ่งก็เป็นแก่นที่มีมาหลายยุคหลายสมัย และชวนตั้งคำถามถึงระบบ อย่าง ถ้ามนุษย์ต้องถูกเอเลี่ยนบุกเพื่อชิงเอาทรัพยากร หรือถ้ามนุษย์กลายเป็นทรัพยากรซะเองจะเป็นยังไง
เมื่อ STARCROSS-11 มีภารกิจตามหาแหล่งอาศัยใหม่ของมนุษยชาติ พวกเขาเดินทางมาถึงระบบดาว Centarus ดาวฤกษ์สาม และสามดาวบริวาร มันช่างน่าเศร้าที่ไม่มีดวงไหนให้มนุษย์สามารถอาศัยอยู่ได้ สิ่งเดียวที่ชาวอาณานิคมทำได้ คือ TERRAFORMA ที่จะเปลี่ยนดาวให้เป็นโลก โดยอาศัยพลังงานของสุริยะทั้งสาม
ระยะเวลาผ่านไปหลายร้อยปี เกิด STARCROSS-11 ที่แยกออกเป็น 3 อาณานิคม อยู่ร่วมกันด้วยกฎของชะตา เดิมพันกันด้วยเกมพนันทรัพยากรครั้งใหญ่ทุกปีผ่านคาสิโนแห่งดวงดาว
"บิลลี่สตาร์ไฟร์" นักชกหนุ่มที่พร้อมจะสละนวม เพื่อผันตัวมาเป็นนักลงทุนสเปซสปอร์ต แต่ดันถูกเพื่อนหักหลัง ถูกกักขังอยู่ในคุกแรงงานที่เหมืองใจกลางดาวฤกษ์ เขาออกมาพร้อมวางแผนใหญ่เพื่อแก้แค้นเพื่อนเก่า ซึ่งบัดนี้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่คาสิโนแห่งดวงดาวด้วยการจับพระอาทิตย์เป็นตัวประกัน
ภูตะวัน แสงกิตติกร (แกรม) หนึ่งในนักแสดงของเรื่องนี้ได้เล่าถึงความสำคัญของการช่วงชิงทรัพยากรและภาพรวมของระบบต่างๆ ภายในระบบดาวดวงนี้ให้ฟังว่า "คือด้วยความที่ระบดาวนี้มีทรัพยากรที่ค่อนข้างจำกัด และมีมนุษย์อยู่ค่อนข้างมาก ถ้าใครที่เป็นคนผูกขาดพลังงานหรือเป็นผู้จัดสรรทรัพยากรจากดาวฤกษ์ไว้ได้คนนั้นจะเป็นผู้ที่มีอำนาจมาที่สุด อยู่เหนือผู้คน มีอำนาจในการต่อรองมาก"
ณิชากร เมฆวรวุฒิ (ลิลลี่) อีกหนึ่งนักแสดงจากเรื่องได้เล่าถึงที่มาของทีมโจรกรรมทีมนี้ว่า "คือถ้าเป็นโลกของเราในอดีตเวลาเราแบ่งทรัพยากรเราต้องทำสงครามเพื่อแย่งชิง แต่ในระบบดาวนี้เขาจะแบ่งทรัพยากรด้วยการพนัน ใช้โชคชะตา ซึ่งก็จะมีคนที่ได้ดีเพราะการเสี่ยงโชค ส่วนคนทั่ว ๆ ไปที่ต้องทำงานอย่างปากกัดตีนถีบเพื่อให้มีชีวิตรอด และยิ่งแต่ละคนที่มาจากต่างที่มามาร่วมทีมโจรกรรมกัน ที่แต่ละคนต่างก็มีเป้าหมายที่ต่างกัน มีอดีตมีภูมิหลังที่ต่างกัน ไม่ว่าทีมปล้น หรือว่าทีมถูกปล้น หรือใครจะปล้นใคร เราว่ามันเป็นเสน่ห์ของละครแนวโจรกรรม"
ไปติดตามทีมโจรกรรมอวกาศทีมนี้ได้ในละครเวที THE GREAT STARCROSS ROBBERY : The STARCROSS-11 Chronicle เสาร์ที่ 8 และ อาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 14.00 น และ 18.00 น ที่อนุสรณ์สถานสิบสี่ตุลา ไม่เสียค่าเข้าชม
