ชวนดู 'Start-Up' ซีรีส์ที่ว่าด้วยธุรกิจสตาร์ทอัพและการให้กำลังใจ นำแสดงโดย นัมจูฮยอก-แบซูจี

BOOMCHANNEL TEAM

Start-Up

ช่วงนี้บน Netflix มีซีรีส์ให้ติดตามกันอยู่หลายเรื่อง หนึ่งในนั้นก็เป็นเรื่องที่เรากำลังจะมาแนะนำให้ได้ไปลองดูกัน เชื่อว่าหากใครที่ติดตามไปเรื่อย ๆ จนถึงตอนจบจะต้องมีแรงฮึดในการทำธุรกิจของตัวเองขึ้นมาแน่นอน โดยเฉพาะธุรกิจสตาร์ทอัพที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก ซีรีส์เรื่องนี้มีชื่อตรงตัวว่า 'Start-Up' นำแสดงโดย นัมจูฮยอก , แบซูจี , คังฮันนา และ คิมซอนโฮ เนื้อหาเต็มไปด้วยการให้กำลังใจ เข้ากันได้ดีกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนี้ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องร้าย ๆ เพราะเราทุกคนต่างต้องการพลังเพื่อให้ผ่านพ้นไป

Start-Up

Start-Up ว่าด้วยเรื่องราวสุดตื่นเต้นของคนหนุ่มสาวที่ต่างมีความเป็นตัวของตัวเอง กับการเริ่มต้นเส้นทางชีวิตในซิลิคอนวัลเลย์ของเกาหลี พวกเขาตัดสินใจที่จะสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพขึ้นมาเพื่อเยียวยาความเจ็บปวดในวัยเด็ก ซีรีส์เรื่องนี้กำกับโดย โอชุงฮวาน ที่เคยฝากผลงานการกำกับเอาไว้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Hotel del Luna , While You Were Sleeping และ Doctors เขียนบทโดย พัคฮเยรยอน เจ้าของผลงาน Dream High , I Can Hear Your Voice , Pinocchio และ While You Were Sleeping

Start-Up

แบซูจี รับบท ซอดัลมี หญิงสาวที่มีความฝันว่าอยากจะเป็น สตีฟ จ็อบส์ แห่งเกาหลี เธอรักความท้าทาย ชอบทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ตื่นเต้น มีพลังด้านบวก และเคยผ่านการทำงานพาร์ตไทม์มาแล้วนับไม่ถ้วน ซูจีเล่าให้ฟังว่า ตอนแรกที่ได้อ่านบทก็คิดว่า Start-Up เป็นเรื่องราวที่สดใหม่มาก เต็มไปด้วยเรื่องของความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ส่วนตัวเธอก็ชอบซีรีส์ที่มีเนื้อหาให้กำลังใจคนรุ่นใหม่ ได้ศึกษาตัวละครตัวนี้เยอะมาก และเรื่องราวของสตาร์ทอัพก็เป็นอะไรที่ใหม่มาก ๆ ได้ไปศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจ ได้ดูคลิปที่เกี่ยวสตาร์ทอัพเพื่อทำความเข้าใจการทำงานของพวกเขา

ซูจียังเล่าให้ฟังเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนหน้านี้เธอเคยได้มีโอกาสร่วมงานกับผู้กำกับโอชุงฮวานและนักเขียนพัคฮเยรยอนมาแล้ว ซึ่งเป็นนักเขียนที่เขียนบทเรื่อง Dream High ซีรีส์เรื่องแรกที่ได้แสดง ความสัมพันธ์ของพวกเราทั้งสามคนดีขึ้นมาก รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ทำงานร่วมกันอีกในตอนที่เติบโตขึ้นมากแล้ว

Start-Up

นัมจูฮยอก รับบท นัมโดซาน ผู้ก่อตั้ง Samsan Tech วัยเด็กเขาเคยเป็นที่ภูมิใจด้วยการเป็นเด็กอัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์ แต่ตอนนี้กลับกลายมาเป็นตำหนิของครอบครัว 2 ปีที่ผ่านมาของการก่อตั้งบริษัท ดูเหมือนจะแย่ลงทุกวัน จนเมื่อรู้ว่าซอดัลมีคิดว่านัมดูซานเคยเป็นรักครั้งแรก ตัวเขาเองเลยตัดสินใจที่จะเป็นสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จให้ได้ เพราะหวังให้ความเข้าใจผิดของซอดัลมีกลายเป็นความจริง

นัมจูฮยอกเผยความรู้สึกเมื่อได้รับบทนี้ว่า ตอนแรกที่ได้อ่านบท รู้สึกว่าคาแร็กเตอร์ที่ตัวเองได้รับยังไม่สมบูรณ์ และจะทำให้มันสมบูรณ์มากขึ้น จากช่วงแรกที่ดูเหมือนเรื่องราวของนัมโดซานยังขาดอะไรบางอย่างอยู่ แต่ระหว่างที่เรื่องราวกำลังดำเนินไป ตัวละครก็ค่อย ๆ เติบโตขึ้น เขามองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับนัมโดซาน ยิ่งอายุเท่ากันกับตัวละคร ก็ยิ่งทำให้รู้สึกแบบเดียวกันง่าย มันทำให้เขานึกอดีตและคิดเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองที่กำลังมองหาการประสบความสำเร็จในชีวิต จูฮยอกต้องการที่จะเติบโตและได้พัฒนาตัวเองไปพร้อม ๆ กับตัวละคร ในเรื่องต้องเล่นเป็นเด็กเนิร์ดด้วย ซึ่งไม่ยากสักเท่าไหร่ เพราะจริง ๆ ก็มีความเนิร์ดอยู่ในตัว อย่างเวลาที่ประหม่ามักจะตัวสั่น จูฮยอกก็เอาเทคนิคที่เป็นจริง ๆ มาใช้

Start-Up

คังฮันนา รับบท วอนอินแจ หญิงสาวที่เพียบพร้อมทั้งเงินทอง การศึกษา และฐานะทางสังคม เธอเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลมหาเศรษฐี วอนอินแจตั้งใจทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อความสำเร็จด้วยความสามารถของตัวเอง และนั่นเป็นเหตุผลที่เธอพาตัวเองเข้าไปอยู่ในวงการสตาร์ทอัพ คังฮันนาเล่าให้ฟังว่า เธอชอบตัวละคร วอนอินแจ เพราะมีความใกล้เคียงกับตัวเองที่ตั้งใจทำอะไรแล้วต้องทำให้สำเร็จให้ได้ ตัวของวอนอินแจเป็นซีอีโอหญิงเก่ง ประสบความสำเร็จในการทำงาน แต่ลึก ๆ แล้วข้างในเธอเป็นคนที่น่าเห็นใจมากทีเดียว

ตอนที่ฮันนาได้คุยกับผู้กำกับและนักเขียนเกี่ยวกับตัวละครตัวนี้ ทุกคนก็เห็นตรงกันว่าวอนอินแจเหมาะกับผมสั้นมากกว่า เธอก็เลยไปตัดผม ส่วนการเตรียมตัวสำหรับบทนี้ นักเขียนก็แนะนำคลิปวิดีโอให้ไปดูเยอะเหมือนกัน เพื่อให้เข้าใจความเป็นคาแร็กเตอร์มากขึ้น ตอนที่ได้ดูก็มองเห็นออร่าของพวกเธอ และเลือกเอาไปใช้ในงานแสดง

Start-Up

คิมซอนโฮ รับบท ฮันจีพยอง หัวหน้าทีมที่ SH Venture Capital ด้วยทักษะด้านการลงทุนและวาทศิลป์ที่เก่งกาจ ทำให้เขาได้รับฉายาว่าเป็น กอร์ดอน แรมซีย์ แห่งการลงทุน แม้ว่าจะเป็นคนที่ดูน่ารำคาญในสายตาคนอื่น แต่เขาก็มีมุมที่อ่อนโยนมากกว่าใคร โดยเฉพาะคนพิเศษที่เขารู้สึกดีในอดีต คิมซอนโฮเล่าให้ฟังว่า ครั้งแรกที่ได้อ่านบท Start-Up มันดูแตกต่างจากซีรีส์อื่น ๆ มากจริง ๆ มันไม่เกี่ยวกับคาแร็กเตอร์ที่ได้รับ แต่เรื่องราวตอนจบในแต่ละตอนทำให้ตัวเองอยากอ่านต่อแบบหยุดไม่ได้ เวลาที่ดูซีรีส์เรื่องอื่นอาจจะเผ็ด อาจจะมัน แต่สำหรับเรื่องนี้มันคือความสนุก ความอบอุ่น และความสบายใจ

ซอนโฮยังเล่าเพิ่มเติมอีกว่า ตัวเขาเองรู้สึกตื่นเต้นกับบท ฮันจีพยอง คาแร็กเตอร์ก็จะร่ำรวยและประสบความสำเร็จ นักเขียนให้การบ้านกลับมาเยอะมากเพื่อให้ศึกษาเรื่องวิธีการพูดของตัวละครที่เป็นคนตรงไปตรงมา พูดจาขวานผ่าซากไม่รักษาน้ำใจ แต่ลึก ๆ ข้างในจริง ๆ แล้วอ่อนโยนมาก

Start-Up

ผู้กำกับ โอชุงฮวาน เล่าถึงที่มาที่ไปของซีรีส์เรื่องนี้ให้ฟังว่า ซีรีส์เรื่องนี้มีเรื่องราวอยู่มากกมาย เมื่อราว ๆ 2 ปีที่แล้ว ตัวเขาได้อ่านเรื่องของคนในวงการสตาร์ทอัพและรู้สึกสนใจมาก ๆ จนคิดเป็นโปรเจกต์นี้ขึ้นมา จากชื่อเรื่องว่า Start-Up มันเป็นการ Support หนุ่มสาวที่กำลังเริ่มต้นชีวิตการทำงาน เราจะได้เห็นตัวละครเติบโต เห็นความสัมพันธ์ของเพื่อน บทเรียนในชีวิต เรียนรู้การค้นหาตัวตน โอชุงฮวานคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำให้รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ เพราะมันเกี่ยวกับหลาย ๆ ประเด็นที่ขับเคลื่อนคนหนุ่มสาว ทั้งความรัก ความฝัน และการทำงานหนักเพื่อให้ได้มาซึ่งความฝันและความสำเร็จ

ตอนที่ถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้ เป็นช่วงที่ไวรัสโคโรนาระบาดพอดี ซึ่งมันก็ยากลำบากในการถ่ายทำเหมือนกันกับผู้ที่ได้รับผลกระทบทั่วโลก แต่ซีรีส์เรื่องนี้ก็เป็นเหมือนกำลังใจที่ช่วยเยียวยาตัวเองด้วย เชื่อว่า Start-Up จะเป็นซีรีส์ที่ให้กำลังใจ ให้ความสบายใจ รักษาบาดแผลทางใจให้กับคนดู ทีมงานทำทุกอย่างเพื่อส่งสารนี้ออกไปถึงผู้ชมให้มีกำลังใจในการใช้ชีวิต

Start-Up

Start-Up ออกอากาศทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 3 ทุ่ม (เกาหลี) ทางช่อง tvN และสามารถรับชมผ่าน Netflix ได้ทุกตอนหลังออกอากาศ

ตัวอย่างซีรีส์ Start-Up

ภาพประกอบ tvN Drama

MORE READ
COMMENT