6 เรื่องที่ "คนไร้ตัวตน" ในห้องเรียนมักจะเจอ ...

@MASTER
Talkative

ในโรงเรียนของเรานั้นต่างมีความหลากหมายเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในห้องๆ หนึ่ง ก็มักจะมีกลุ่มคนอยู่หลายประเภท ทั้งนักกิจกรรมที่ในเวลาเรียนจะไม่ค่อยเห็นเขาสักเท่าไหร่แต่เมื่อโรงเรียนมีงานอะไรต้องเป็นเด็กกลุ่มนี้เดินอยู่แถวหน้าคอยนำทุกกิจกรรมเลยทีเดียว หรือว่าจะเป็นกลุ่มเด็กเรียนที่นั่งแถวหน้าสุด ถามอะไรตอบได้ สอบเมื่อไหร่ก็ได้คะแนนสูงอยู่เรื่อยๆ หรือว่าเป็นกลุ่มขาเม้าส์ ที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องซุบซิบนินทาใดๆ ในโรงเรียนก็ไม่อาจรอดสายตาของพวกเธอเหล่านั้นไปได้ แต่ทุกคนรู้ไหมครับว่าในห้องของเรานั้นอาจจะมีคนอยู่ประเภทหนึ่งที่มักจะนั่งเงียบๆไม่ค่อยเข้ากลุ่มกับใคร หรือ เรียกว่าค่อนข้างสันโดษอยู่นิดๆ  ใช่แล้วครับ วันนี้เราจะมาพูดถึงคนกลุ่มนี้กัน กับ 6 เรื่อง ที่คนไร้ตัวตนมักจะเจออยู่บ่อยๆ นั่นเอง

หากย้อนเวลากลับไปได้

เรื่องที่ 1 ไม่ว่าเขาหรือเธอจะมาเรียนหรือไม่มาเรียน ก็มักไม่มีใครสนใจ

ดูเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ แต่ทุกครั้งไม่ว่าวิชานั้นคุณครูจะเช็คชื่อหรือไม่ก็ตาม ก็มักจะไม่มีใครสนใจคนกลุ่มนี้อยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าเขาหรือเธอจะมา จะยกมือขานชื่อของตัวเอง หรือไม่มาเรียนก็มักจะไม่มีใครสนใจกันอยู่แล้ว อันนี้เรียกว่าเป็นหนึ่งข้อดีเล็กๆ ที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็มักไม่ค่อยมีใครมารบกวนสักเท่าไหร่ หรือถึงขาดเรียนก็ไม่ค่อยมีใครรู้ .. เดี๋ยวนะ นั้นใช่ข้อดีจริงๆ หรอเนี่ย

หากย้อนเวลากลับไปได้

เรื่องที่ 2 มักเป็นเศษเกินของกลุ่ม

ในโรงเรียนเดี๋ยวนี้ครูเขาก็ชอบสั่งงานกลุ่มกันเหลือเกิน และบ่อยครั้งคนกลุ่มนี้ก็มักจะถูกลืมอยู่เป็นประจำ นั้นเองคือสิ่งหนึ่งที่ไม่ค่อยยุติธรรมกับคนกลุ่มนี้สักเท่าไหร่ หรือบ่อยครั้งเมื่อมีงานกลุ่มคนกลุ่มนี้หลายคนมักถูกเพื่อนๆตราหน้าว่าทำงานช้า หรือมักเป็นตัวถ่วงของเพื่อน ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วหลายคนนั้นเป็นคนที่ทำงานค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียว .. เอาน่าถึงจะอยู่กลุ่มใคร แต่ถ้างานออกมาดูดี ก็ไม่น่าลองพยายามอยู่เหมือนกันนะ

หากย้อนเวลากลับไปได้

เรื่องที่ 3 หลายคนคิดว่ามีโลกส่วนตัวสูงมาก

ไม่แปลกเลยที่คนกลุ่มนี้มักถูกมองว่ามีโลกส่วนตัวสูงมาก ก็ด้วยความรักสันโดษที่ชอบทำอะไรคนเดียว หรือไม่ค่อยชอบใครให้มายุ่งวุ่นวายกับชีวิต ที่ขอมีความสุขอยู่ในพื้นที่เล็กๆ จริงๆแล้วคนกลุ่มนี้ไม่ใช่ว่าไม่ต้องการเพื่อน หรือว่าโลกส่วนตัวสูง หากแต่มนุษย์ทุกคนต่างก็มีพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งจะมากจะน้อย ก็แล้วแต่ว่าแต่ละคนนั้นจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าอยากลองพูดคุยกับคนกลุ่มนี้ก็คงไม่ยากและไม่ง่ายนัก แต่ขอเพียงเข้าหาเขาด้วยความจริงใจ เราก็จะเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันอย่างมากเลยก็ว่าได้

หากย้อนเวลากลับไปได้

เรื่องที่ 4 ไม่ค่อยมีใครสนใจความเห็นสักเท่าไหร่

ในเวลาเรียนหรือทำกิจกรรมต่างๆมัักจะมีการให้ช่วยออกความคิดเห็น แต่ก็มักจะมีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่บ่อยตั้งไม่ค่อยมีใครมองเห็นหรือมักจะถูกมองข้ามตลอดเวลา หรือแม้กระทั่งเมื่อได้ออกความเห็น ก็มักจะเป็นความเห็นที่ถูกมองข้ามเสมอๆ จริงๆคนกลุ่มนี้ค่อนข้างคิดมากเลยทีเดียวกับเรื่องการออกความเห็นใดๆ ก็ตาม ก็อยากให้ทุกคนได้มุมมองใหม่ๆ หรือต้องใช้เวลาในการคิดและทำความเข้าใจมากๆ จนหลายครั้งที่มักถูกมองว่าน่ารำคาญ หรือ มักถูกมองว่าเป็นความเห็นที่ไร้สาระ แต่หากลองตั้งใจฟังกันดีๆ คนที่รู้และเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดจริงๆอาจจะเป็นคนที่ถูกมองว่าไร้ตัวตนก็ได้นะ

หากย้อนเวลากลับไปได้

เรื่องที่ 5 มักถูกมองว่าเป็นคนไม่แคร์ใคร

ถึงแม้ว่าคนกลุ่มนี้จะชอบสันโดษและเหมือนว่าเขาหรือเธอจะไม่ค่อยแคร์อะไรใครสักเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วลึกๆ คนกลุ่มนี้มักเป็นคนที่เก็บจำรายละเอียดได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหากคนๆนั้นเป็นเพื่อนสนิทด้วยแล้ว ไม่ว่าจะวันเกิด เวลามาโรงเรียน อาหารที่ชอบ หรือแม้กระทั่งเวลาที่เราเสียใจมากที่สุด ก็อาจจะมีคนกลุ่มนี้แหละ ที่พร้อมที่จะรับฟังและเข้าใจเรามากที่สุด

หากย้อนเวลากลับไปได้

เรื่องที่ 6 โซนของคนสำคัญ

สิ่งที่คนไร้ตัวตนส่วนใหญ่มักมีคล้ายๆกับคนธรรมดาๆ คือ เพื่อนในห้องที่มักถูกจัดอยู่ในโซนต่างๆ ตั้งแต่เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมห้อง เพื่อนร่วมโลก หรือคนรู้จัก แต่คนกลุ่มนี้มักจะมีเพียง เพื่อนสนิท และคนรู้จัก หากวันใดที่เขา หรือเธอยินดีต้อนรับใครสักคนเข้ามาเป็นเพื่อนสนิทแล้ว นั้นหมายความว่า เขาคนนั้นจะเป็นเพื่อนของคนกลุ่มนี้แบบที่ยินดีจะทำทุกๆ อย่างให้แบบที่ไม่คิดถึงตัวเองก่อนเลย แต่ถ้าหากเขาหรือเธอทำให้คนกลุ่มนี้เสียใจ คนกลุ่มนี้จะรู้สึกเจ็บปวดและทรมานมากและไม่ว่าจะขอโทษอย่างไร หรือถึงยังเป็นเพื่อนร่วมห้องกันอยู่ แต่คนกลุ่มนี้จะจัดคนที๋ทำให้เขาเสียใจไว้ติดชายขอบคนที่รู้จักไปตลอดกาลทันที

หากย้อนเวลากลับไปได้

และนี่คือเรื่องราวคร่าวๆในชีวิตอันซับซ้อนของกลุ่มคนที่มักถูกมองว่าไร้ตัวตนในห้อง เป็นไหมครับว่า เราทุกคนนั้นต่างก็มีชีวิตและจิตใจ ถึงแม้ว่าเราแต่ละคนจะมีบุคลิกที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนก็เป็นเพื่อนมนุษย์ที่มีความรู้สึก ดังนั้นการที่ใครในห้องนั้นดูแตกต่างไปนั้นไม่ได้หมายความว่าเขาจะแปลกแยกไปจากคนในห้อง ทุกคนขอเพียงแค่ความเข้าใจ เราอาจจะได้เพื่อนดีๆเพิ่มขึ้นมากอีกหลายๆคนเลยนะ

สำหรับใครที่เริ่มรู้และเข้าใจคนกลุ่มนี้มากขึ้น แนะนำให้ติดตาม ละครเรื่อง หากย้อนเวลากลับไปได้ ต่อกันเลย

ตัวอย่าง หากย้อนเวลากลับไปได้

COMMENT