ออกผจญภัยทั่วน่านน้ำ !! ไปกับ Pirates of the Caribbean ภาค 5

วันพรุ่งนี้ (25 พฤษภาคม 2560) แล้วที่ภาพยนตร์แฟนตาซีฟอร์มยักษ์ จาก Walt Disney เรื่อง Pirates of the Caribbean : Salazar’s Revenge กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเรา ซึ่งนับเป็นภาคที่ 5 ที่มีเนื้อเรื่องต่อเนื่องกันมาจากภาคก่อน เพื่อให้คนที่ยังไม่มีโอกาสได้ชมภาคที่ 4 ได้เข้าใจตรงกัน บูมแชนแนล ขออนุญาตย้อนความไปยังภาคที่แล้วว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร ก่อนจะนำมาสู่เหตุการณ์ในภาคที่ 5 นี้ได้

ภาคที่ 4 มีชื่อตอนว่า ผจญภัยล่าสายน้ำอมฤตสุดขอบโลก เมื่อ กัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ (จอห์นนี่ เด็ปป์) ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในการผจญภัยที่เต็มไปด้วยการเดินทางสุดหิน ภายหลังที่เขาได้พบกับสาวงามสุดลึกลับ อย่าง แองเจลิก้า (เพเนโลเป้ ครูซ) กัปตันแจ็ค ก็มีไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเขานั่นเรียกว่าความรักรึเปล่า บางทีหญิงสาวที่ตนเองพบก็อาจเป็นนักต้มตุ๋นที่หลอกใช้เขาเพื่อตามหาน้ำอมตะในตำนานก็เป็นได้ แองเจลิก้า ได้บังคับให้กับตันแจ็คขึ้นไปยังเรือควีนแอนส์ รีเวนจ์ ที่เป็นเรือของ โจรสลัดเคราดำในตำนาน (เอียน แม็คเชน) จากนั้นการออกผจญภัยในแบบที่ไม่คาดคิดก็ได้เริ่มต้นขึ้น กัปตันแจ๊คเริ่มไม่แน่ใจว่าควรจะกลัวใครมากกว่ากัน ระหว่าง โจรสลัดเคราดำในตำนาน หรือแองเจลิก้า ผู้ที่เขาเคยมีความหลังอันน่าเคลือบแคลงใจด้วย

มาถึงในภาคที่ 5 มีชื่อตอนว่า สงครามแค้นโจรสลัดไร้ชีพ เพื่อเป็นการลบคำสาปของผู้เป็นพ่อ เฮนรี เทอร์เนอร์ (เบรนตัน ทเวทส์) จำต้องออกตามหาสุดยอดศาสตราวุธอันเป็นที่หมายปองของเหล่าโจรสลัดและนักเดินเรือทั่วท้องมหาสมุทร อย่าง ตรีศูล เพื่อมาจัดการกับคำสาปดังกล่าว แต่งานนี้จะสำเร็จไม่ได้เลย หากว่าไม่ได้เข็มทิศทองของ กัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ โจรสลัดขี้เมา รวมถึงอาศัยฝีมือในการอ่านแผนที่ดวงดาวจาก คารินา สมิธ (คายา สโคเดลาริโอ) สาวกำพร้าวที่พยายามออกเดินทางเพื่อตามหารากเหง้าของตัวเอง นอกจากปัญหาคลื่นลมและสภาพของเรือที่ใช้เดินทางแล้ว กัปตันแจ็ค ยังต้องต่อกรกับ กัปตันซาลาซาร์ (ฆาเวียร์ บาร์เด็ม) อสูรต้องคำสาปที่หมายปองจะล้างบางเหล่าโจรสลัด ผู้ที่เคยก่อไฟแค้นเอาไว้กับตน กับ กัปตันบาร์บอสซา (เจฟฟรีย์ รัช) มิตรรักคู่อาฆาตของแจ็คที่ก็หมายปองในตรีศูลเช่นเดียวกัน

สำหรับการเดินทางของ Pirates of the Caribbean ทั้ง 4 ภาคที่ผ่านมา ถือเป็นเครื่องการันตีความสำเร็จของโปรดิวเซอร์มือทอง อย่าง เจอรี บรัคไฮเมอร์ ที่เคยดูแลงานสร้างหนังแอ็คชั่นมานับไม่ถ้วน เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมีความสัมพันธ์อันดีกับ Walt Disney ในด้านของการทำงาน จะเห็นได้ว่ากลไกหลักที่ทำให้หนังชุดนี้ประสบความสำเร็จ คือ การปลุกวิญญาณเรื่องราวโจรสลัดแห่งท้องทะเลที่ดัดแปลงมาจากเครื่องเล่นในดิสนีย์แลนด์ การเดินทางไปกับ แจ็ค สแปร์โรว์ กัปตันขี้เมาจึงกลายเป็นภาพจำที่ทำให้คนดูหนังจำนักแสดงหนุ่มจอห์นนี่ เด็ปป์ไปได้โดยปริยาย

เมื่อการฉายภาคที่ 3 ในปี 2007 ได้เสร็จสิ้นลง ก็ได้ปล่อยให้ช่วงเวลาทิ้งห่างไปถึง 4 ปี จากนั้นก็ได้เริ่มสร้างภาค 4 ที่มีชื่อตอนว่า On Stranger Tides นำออกฉาย โดยฝีมือของผู้กำกับหนังเพลงออสการ์ เรื่อง Chicago อย่าง ร็อบ มาร์แชล รับหน้าที่นำกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ ออกผจญภัยหาน้ำอมตะและทิ้งเรื่องราวของครอบครัวเทอร์เนอร์ไป ทำให้หนังถูกนักวิจารณ์และผู้ชนสับจนเละในแง่ของบทหนังที่มีช่องโหว่ มุกตลกที่เริ่มฝืดของกัปตันแจ็ค ฉะนั้น การกลับมาในภาค 5 นี้ที่มีชื่อตอนว่า Dead Men Tell No Tale หรือในบ้านเราใช้ชื่อตอน Salazar’s Revenge ที่กำกับโดย โจคิม รอนนิง (Joachim Ronning) และเอสเพน แซนด์เบิร์ก (Espen Sandberg) ก็นับเป็นการทดสอบว่าจะสามารถกู้หน้าความดีงามของหนังเรื่องนี้กลับมาได้เหมือนเดิมรึเปล่า ซึ่งก็จะเป็นผลต่อหนังชุดโจรสลัดในอนาคต รวมถึงอาชีพโปรดิวเซอร์ของ เจอรี บรัคไฮเมอร์ ด้วย