สาเหตุที่ไม่มี 'Iron Man 4' ผู้เขียนบท 'Avengers' อธิบายไว้แบบนี้

ถ้าใครที่เป็นสาวกภาพยนตร์เรื่อง 'Iron Man' แล้วละก็ คงจะมีความรู้สึกไม่ต่างกันว่าตัวเอกของเรื่อง ที่นำแสดงโดย 'โทนี่ สตาร์ก' นั้นเป็นหนึ่งในตัวละครของมาร์เวลที่คนดูรู้สึกรัก ดูได้จากหนังที่เล่าเรื่องราวของตัวละครนี้แบบเดี่ยวๆ อย่าง 'Iron Man 3' ก็สามารถทำรายได้ไปถึง 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ รองอยู่แค่ 'Black Panther' ที่ทำรายได้ไปถึง 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น แม้ไอรอนแมนจะทิ้งท้ายการจากลาครั้งล่าสุดด้วยความสง่างาม มีเกียรติ แต่ก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้าที่เหล่าแฟนๆ ทั่วโลกไม่อยากให้เกิดขึ้น ถึงพวกเขาจะคิดว่ามาร์เวลใจร้ายที่ฆ่าตัวละครที่คนดูรักได้ลง แต่พวกเขาก็ยังรอคอยที่จะได้เห็นปฏิบัติการครั้งต่อๆ ไปของไอรอนแมนอยู่ เพื่อให้สิ่งที่รอคอยในอนาคตชัดเจนขึ้น 'คริสโตเฟอร์ มาร์คัส' และ 'สตีเฟน แม็กฟรีลีย์' 2 มือเขียนบทที่รับผิดชอบบทภาพยนตร์ของมาร์เวลในช่วงหลังๆ อย่าง Captain America: The Winter Soldier , Captain America: Civil War , Avengers: Endgame , Avengers: Infinity War จะเป็นผู้ให้คำตอบกับเราได้

Iron Man

มาร์เวลรู้ดีว่าจะต้องทำหนังยังไงให้ได้เงิน เพียงแต่เราไม่เคยฉวยโอกาสเหล่านั้น

เขาทั้งคู่ได้ไปให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Variety เพื่อตอบคำถามว่าเพราะอะไรมาร์เวลถึงทำไม่ภาคต่อของ Iron Man โดยคำอธิบายนั้นได้ทำให้เห็นว่าคนดูต่างก็รักความที่เป็น โทนี่ สตาร์ก รักความที่เป็น 'โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์' ตลอดจนตัวของไอรอนแมนเอง การจะหากินกับภาคต่อเรื่องนี้มันเหมือนการหากินกับของตาย สตีเฟน แม็กฟรีลีย์ ขอใช้โอกาสนี้โต้แย้งความคิดเห็นของผู้กำกับ 'มาร์ติน สกอร์เซซี' ที่ออกมาประณามคุณภาพหนังของมาร์เวล เขาบอกว่ามาร์เวลรู้ดีว่าจะต้องทำหนังยังไงให้ได้เงิน เพียงแต่เราไม่เคยฉวยโอกาสเหล่านั้น ไม่คิดจะหากินกับภาคต่อตัวละครฮิตๆ ไปเรื่อยๆ ยกตัวอย่าง 'Guardians of the Galaxy' ของ 'เจมส์ กันน์' เป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความสนุก มีตัวละครที่คนดูชื่นชอบ เอาจริงๆ มาร์เวลจะถึงตัวละครเหล่านี้ออกมาสร้างเป็นภาคแยกก็ทำได้ แต่ไม่ทำ

สตีเฟน แม็กฟรีลีย์ ยังได้อธิบายแนวความคิดของมาร์เวลเพิ่มเติมเอาไว้อีกว่า "เราจะสร้างหนังการผจญภัยของ ร็อกเก็ต กับ กรูต ก็ได้ ถ้าเราคิดแบบนั้นเราก็คงทำ Iron Man 4 ไปด้วยแล้ว แต่เราตัดสินใจที่จะไม่ฉวยโอกาสกับอะไรแบบนี้"

เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพมากขึ้น สตีเฟน และ คริสโตเฟอร์ อยากให้ลองดูในส่วนของหนัง Avengers : End Game เรื่องนี้เป็นหนังที่สามารถทำได้รายสูงที่สุดตลอดการ แล้วในกรณีเดียวกันนี้เอง มาร์เวลก็ตัดสินใจเอา Iron Man และ Captain เป็น 2 ตัวละครที่คนดูรู้สึกรักออกจากจักรวาลหนังมาร์เวล สตีเฟน เผยความรู้สึกกับการตัดสินใจครั้งสำคัญว่า "มันเหมือนกับว่าเรามาถึงจุดหมายแล้ว เราปักธงลงบนพื้นได้สำเร็จ ถึงเวลาที่เราจะต้องยุติบทบาทของบางตัวละครแล้ว เอาพวกเขาออกจากกระดาน ผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ห้าวหาญนะ ที่หักความรู้สึกคนดูแบบนี้ แต่มันก็เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเรา"

คริสโตเฟอร์ ขออธิบายเหตุผลเพิ่มเติมว่าทำไมมาร์เวลถึงไม่ควรทำ Iron Man 4 ออกมา ทำไมถึงเลือกให้ โทนี่ สตาร์ก ต้องมีจุดจบใน Avengers : End Game ว่า "เรื่องราวบางอย่างมันจำเป็นต้องมีจุดจบ ไม่เช่นนั้นมันก็จะสูญเสียความสำคัญไป จุดจบของเขาได้วางรากฐานสำคัญไว้ให้กับจักรวาลมาร์เวลเรียบร้อยแล้ว เขาคือผู้รวบรวมเหล่าซูเปอร์ฮีโรให้มาทำงานร่วมกัน แล้วพาพวกเขาไปถึงจุดที่ได้รับความนิยมสูงสุด ก็ใช่ พอถึงจุดนี้ เราก็ต้องเอาเขาออกจากจักรวาลซะ สิ้นสุดวีรกรรมอันยาวนานของเขาเสียที สมมติว่าเรื่องราวเดินไปอีกทิศทางหนึ่ง โทนี่ไม่ตายเพราะมีโพรเจกต์ Iron Man 4 รออยู่ ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ (คริสโตเฟอร์ ส่ายหัว) มันจะเยอะเกินไปแล้ว (หมายถึงตัวละครในจักรวางหนังมาร์เวล)"

สตีเฟน และ คริสโตเฟอร์ ยังพูดเสริมอีกด้วยว่า การเสียสละของ โทนี่ สตาร์ก นั้นยิ่งใหญ่และมีเกียรติพอแล้ว เขาจะเป็นที่จดจำของผู้ชมไปตลอดกาล แต่หากมาร์เวลเลือกให้ทางเดินให้ โทนี่ สตาร์ก รอดจาก Avengers : End Game เพื่อไปหากินกับภาคต่อเรื่อยๆ มันจะเป็นความรู้สึกที่แตกต่างกันมาก วีรกรรมที่ โทนี่ จัดการกับ ธานอส ดูจะเป็นเรื่องเล็กไปเลย

Iron Man

ทำไมตัวละคร 'Thor' ถึงได้ไปต่อ ทั้งที่ไม่ได้ทำเงินเทียบเท่า Iron Man

ช่วงหลังมานี้มาร์เวลได้ปรับเปลี่ยนบุคลิกของ ธอร์ ไปมาก จากเทพเจ้าสายฟ้าที่สุขุม มาเป็นเทพเจ้าที่มีอารมณ์ขันใน Thor: Ragnarok พอมาถึง Avengers : End Game เทพเจ้าสายฟ้าก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นตัวละครที่หดหู่ จมอยู่กับความทุกข์ ความผิดหวัง เป็นธอร์ที่ติดถังเบียร์ เหตุการณ์หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่ Infinity War จนถึง End Game ก็มีปริศนาหลายอย่างที่ยังไม่ถูกเปิดเผย ยังมีเรื่องราวให้ขยายเพิ่มได้อีกมาก สตีเฟน และ คริสโตเฟอร์ อธิบายให้ฟังว่ามันแตกต่างจากกรณีของ โทนี่ สตาร์ก เพราะภารกิจของตัวละครตัวนี้ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว

ตั้งแต่เปิดจักรวาลหนังมาร์เวลด้วย Iron Man ยาวไปจนถึง Avengers : End Game อัจฉริยะที่เป็นทั้งเพลย์บอยและคนใจบุญได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีมใน Avengers (2012) เดินทางมายัง Iron Man 3 และ Captain America: Civil War ทำให้เขาได้เห็นจุดบกพร่องของตัวเอง เขาต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ที่ไม่ได้เจอมาก่อนใน Infinity War โทนี่ สตาร์ก ได้สัมผัสกับความเป็นจริงที่โหดร้ายและเยือกเย็น ประสบการณ์ในตอนนั้นทำให้ตัวเขาแข็งแกร่งขึ้น เป็นบทเรียนที่ทำให้เห็นว่าเมื่อแพ้ก็ไม่จำเป็นต้องล้มเลิกความตั้งใจ  เพราะเขายังมีกำลังใจและความรักจากครอบครัวและผองเพื่อนซูเปอร์ฮีโร มันถูกควบรวมทำให้เขามีกำลังฮึกเหิมที่จะสู้ต่อไป จนกลายเป็นเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ของซูเปอร์ฮีโรที่มีชื่อว่า Iron Man และได้เดินมาจนถึงปลายทางที่สมบูรณ์แล้ว ซึ่งใกล้เคียงกับ 'Captain America' ที่ผ่านสงครามการสู้รบหลายรูปแบบมาอย่างยาวนาน จนน่าจะถึงเวลาที่สมควรหยุดการต่อสู้นั้นเสียที

Thor

สมบูรณ์ แต่ไม่หายไป

ถึงแม้แฟนๆ จะไม่มีโอกาสได้เห็นเรื่องราวของ โทนี่ สตาร์ก ใน Iron Man 4 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้เห็นตัวละครนี้อีก เพราะเขาจะเข้ามารับเชิญใน 'Black Widow' ซึ่งเป็นหนังเดี่ยวของ 'นาตาชา โรมานอฟ' โดยจะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง Civil War และ Infinity War ส่วน โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ก็จะมาพากย์เสียงในแอนิเมชัน 'What If …?' ที่ปล่อยให้ได้ชมกันผ่านทาง Disney+ อีกด้วย

Black Widow

MORE READ