สัมภาษณ์พิเศษ นักแสดงนำจากเรื่อง "Kingdom ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด"

Entertain

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่ง Original Content จาก Netflix ที่สร้างกระแสแผ่ขยายทำให้ใครๆ ก็อยากดูเรื่องราวการต่อสู้กับเหล่าซอมบี้ที่เกิดขึ้นในยุคโชซอน ถือเป็นความแปลกใหม่และท้าทายของทีมผู้สร้างที่สั่งสมจากความชื่นชอบในประวัติศาสตร์เกาหลีและเรื่องราวซอมบี้ของมือเขียนบท อย่าง คิมอึนฮี เจ้าของผลงาน Phantom , 3 Days และซีรีส์สืบสวน อย่าง Signal ทำให้บทประพันธ์เรื่อง Kingdom นี้ไปเตะตาเน็ตฟลิกซ์และผ่านเข้าไปอยู่ในฐานะออริจินัลซีรีส์ได้ พร้อมกันนั้นยังมีผู้กำกับฝีมือดีจาก A Hard Day และ The Tunnel อย่าง คิมซองฮุน มาผนึกกำลังผนักดันให้ซีรีส์เรื่องนี้โลดแล่นและกลายเป็นซีรีส์พีเรียดที่น่าจับตามองจากสาวกที่ชื่นชอบคอนเทนต์แนวซอมบี้จากทั่วโลก ซึ่งเรื่องนี้ใช้งบประมาณในการสร้างกว่า 1.78 ล้านเหรียญสหรัฐต่อตอน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 56.4 ล้านบาทต่อตอน

Kingdom ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด เล่าเรื่องราวของ "อีชาง" รับบทโดย "จูจีฮุน" องค์รัชทายาในยุคโชซอนที่ค้นพบความจริงอันน่ากลัวหลังจาที่ตัวของเขาเองพยายามหาที่มาของโรคระบาดไปตามเมืองต่างๆ ตั้งแต่เมืองฮันยาง เมืองหลวงอาณาจักรโชซอน ปัจจุบันคือ กรุงโซล ในเกาหลีใต้ เขาจะต้องเผชิญหน้ากับ "โจฮักจู" รับบทโดย "รยูซึงรยง" ข้าหลวงที่มีอำนาจเหนือกษัตริย์และเต็มไปด้วยความโลภ นอกจากนั้นก็ยังมีอีกหนึ่งตัวละคร อย่าง "ซอบี" รับบทโดย "แบดูนา" นางพยาบาลในสถานพยาบาลเล็กผู้รู้ความลับของโรคระบาดที่เกิดขึ้น

และเพื่อให้เข้าใจและอินไปกับซีรีส์เรื่องนี้อย่างเต็มอรรถรสมากขึ้น เรามีบทสัมภาษณ์จาก 3 นักแสดงนำมาฝากกัน แต่ละคนรับบทบาทอะไรบ้าง ความยากง่ายของการแสดงในเรื่องนี้ไปเป็นยังไง ลองไปอ่านกัน

อยากให้แต่ละคนอธิบายบทบาทของตัวเองในซีรีส์เรื่องนี้

จูจีฮุน : ผมรับบทเป็น อีชาง องค์รัชทายาทในอาณาจักรโชซอน ที่กังวลเกี่ยวกับอาการป่วยของกษัตริย์ และออกจากพระราชวังเพื่อค้นหาความจริง โดยไม่รู้ว่านอกพระราชวังนั้นแตกต่างจากที่คิด และมีโรคระบาดเกิดขึ้นครับ

แบดูนา : ฉันรับบทเป็น ซอบี นางพยาบาลในสถานพยาบาลเล็กๆ ที่ชื่อว่า Jiyulheon ในเมืองทงแน ซึ่งมีโรคระบาดเกิดขึ้นค่ะ

รยูซึงรยง : ผมรับบทเป็น โจฮักจู ข้าหลวงที่มีอำนาจเหนือกษัตริย์ และพยายามที่จะครองบัลลังก์ด้วยการใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทและลูกสาวของตัวเองที่เป็นพระมเหสีครับ

ทำไมถึงตัดสินใจร่วมโปรเจกต์ Kingdom

จูจีฮุน : หลังจากอ่านสคริปต์จบ ผมก็ไม่ลังเลที่จะรับแสดงเรื่องนี้เลยครับ บทของเรื่องนี้ดีมาก ส่วนตัวผมชอบผลงานของผู้กำกับคิมซองฮุนอยู่แล้วด้วย และระบบของ Netflix ที่จะเผยแพร่ซีรีส์ไปในกว่า 190 ประเทศก็น่าสนใจมากครับ

แบดูนา : ตอนที่อ่านสคริปต์ครั้งแรกฉันรู้สึกทึ่งมาก ฉันอยากร่วมงานกับนักเขียนบทคิมอึนฮีอยู่แล้ว และก่อนหน้านี้ฉันมีโอกาสได้ร่วมงานกับผู้กำกับคิมซองฮุนในภาพยนตร์ The Tunnel ซึ่งฉันชอบการทำงานร่วมกับเขา นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ฉันตัดสินใจร่วมโปรเจกต์นี้ค่ะ

รยูซึงรยง : สำหรับผม พบว่าบทโจฮักจูของผมน่าทึ่งมากครับ โจฮักจูเป็นตัวละครที่เปิดเผยความปรารถนาของมนุษย์ออกมาได้อย่างชัดเจนมาก เขามีความทะเยอทะยานและใช้ทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง แม้ว่าทางที่เขาเลือกจะเป็นทางที่ผิดก็ตาม

หลังจากได้ร่วมงานกับ Netflix รู้สึกอย่างไรบ้าง

จูจีฮุน : ดีมากเลยครับ ตอนแรกผมยังไม่ค่อยรู้จัก Netflix เท่าไร แต่หลังจากที่ได้ร่วมงานกัน ผมรู้สึกว่า Netflix ค่อนข้างให้อิสระกับพวกเราพอสมควร เพราะการร่วมงานกับสถานีโทรทัศน์หรือโฆษณาต่างๆ ในเกาหลีมักจะมีข้อจำกัดค่อนข้างเยอะครับ

การร่วมงานกับนักเขียนบท คิมอึนฮี เป็นอย่างไรบ้าง

รยูซึงรยง : ถ้ายกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ สำหรับการเขียนบทซีรีส์สักเรื่อง ผมคิดว่านักเขียนบทมีหน้าที่คล้ายสถาปนิกครับ ถ้าคุณมีแบบบ้านที่ผิด คุณก็จะไม่สามารถสร้างบ้านได้อย่างที่ต้องการ สำหรับนักเขียนบทคิมอึนฮี ผมต้องบอกว่าเธอเป็นนักเขียนบทที่เก่งมากครับ และยิ่งได้ร่วมงานกับผู้กำกับคิมซองฮุนที่เก่งมากๆ อีก ยิ่งทำให้ผมรู้สึกสบายใจที่ได้ทำงานร่วมกับทั้งสองคนครับ

Kingdom เป็นซีรีส์พีเรียดเรื่องแรกที่แบดูนารับเล่น รู้สึกอย่างไร

แบดูนา : ตอนแรกฉันก็กังวลนิดหน่อยนะคะ เพราะไม่เคยเล่นซีรีส์พีเรียดมาก่อน และคาแรกเตอร์ของผู้หญิงในสมัยโชซอนต้องเรียบร้อย ซึ่งแตกต่างจากบทที่ฉันเคยเล่นมาพอสมควรเลยค่ะ แต่สุดท้ายฉันมีความสุขและคุ้มค่ามากๆ ที่ตัดสินใจเล่นซีรีส์เรื่องนี้ มันทำให้ฉันได้เรียนรู้สไตล์การแสดงที่แตกต่างไปจากเดิม รวมถึงทักษะการใช้เสียงในการแสดงซีรีส์พีเรียด เพราะปกติในซีรีส์ทั่วไปฉันมักจะใช้โทนเสียงที่เป็นธรรมชาติ แต่ในเรื่องนี้ฉันจะเน้นไปที่การออกเสียงให้เหมือนแบบดั้งเดิมมากที่สุดค่ะ

ที่ผ่านมารยูซึงรยงเคยแสดงในงานแนวพีเรียดมาบ้างแล้ว คิดว่า Kingdom ต่างจากซีรีส์หรือภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ อย่างไรบ้าง

รยูซึงรยง : ซีรีส์และภาพยนตร์พีเรียดที่ผมเคยเล่นส่วนใหญ่มักจะอิงจากประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงครับ ซึ่งในประวัติศาสตร์โชซอนก็มีการแย่งชิงอำนาจเหมือนกัน แต่ Kingdom แตกต่างเพราะมีซอมบี้เข้ามาเกี่ยวข้องครับ ทำให้ต้องใช้วิชวลเอฟเฟกต์มากกว่าซีรีส์พีเรียดเรื่องอื่นๆ และการดำเนินเรื่องก็นานกว่าด้วยครับ

ผลงานที่ผ่านมาคุณจูจีฮุนดูคุ้นเคยกับการแสดงฉากแอ็กชันอยู่พอสมควร สำหรับเรื่องนี้ต้องไปเรียนหรือฝึกฝนอะไรเพิ่มเติมไหม

จูจีฮุน : ก่อนถ่ายซีรีส์ผมต้องฝึกแสดงฉากแอ็กชันเพื่อใช้ในการต่อสู้ในซีรีส์เยอะเลยครับ มีฉากที่ผมต้องขี่ม้าด้วย ผมเลยต้องไปฝึกขี่ม้าเพิ่มครับ

อยากให้เล่าถึงฉากที่ประทับใจหรือเป็นฉากที่ใช้เวลากับมันมากเป็นพิเศษ

จูจีฮุน : ผมมีฉากที่ต้องต่อสู้กับซอมบี้เพื่อปกป้องชาวบ้านครับ ซึ่งฉากนี้ใช้เวลาถ่ายทำทั้งหมด 15 วัน และตลอด 15 วันนั้นผมต้องวิ่งตลอดเลยครับ ต้องต่อสู้ด้วย ค่อนข้างยากสำหรับผมพอสมควรเลยและสภาพอากาศหน้างานโหดร้ายมากครับ อากาศหนาวมาก บางฉากเราต้องเดินทางไปถ่ายทำบนยอดเขา ต้องขี่ม้า และใช้เวลาเดินทางนานกว่า 7 ชั่วโมงเพื่อถ่ายฉากนั้น ค่อนข้างลำบากเลยครับ

แบดูนา : เมื่อเทียบกับฉันแล้ว คุณจูจีฮุนมีฉากที่ต้องต่อสู้เยอะกว่ามากด้วยบทบาทองค์รัชทายาทของเขา ในขณะที่ฉันเป็นผู้หญิงและรับบทเป็นพยาบาลในสมัยโชซอน ซึ่งสมัยนั้นผู้หญิงไม่ค่อยมีหน้าที่อะไรมาก เป็นผู้นำก็ไม่ได้ ทำให้ฉันไม่ค่อยมีฉากที่ต้องต่อสู้หรือเหนื่อยมากนักค่ะ แต่มีอยู่ฉากหนึ่งฉันต้องถ่ายทำท่ามกลางอากาศหนาว ฉากนั้นฉันต้องอุ้มเด็กอายุ 9 ขวบวิ่งขึ้นเขาไปด้วย ค่อนข้างยากและหนักมากเลยค่ะ หลังจากถ่ายฉากนั้นเสร็จฉันต้องใช้เครื่องช่วยหายใจประมาณ 5 นาทีเลยค่ะ

รยูซึงรยง : สำหรับผมที่รับบทเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งความทะเยอทะยานและความโลภของเขาน่ากลัวกว่าซอมบี้ แต่จริงๆ แล้วตัวผมเองกลัวซอมบี้ครับ ทำให้ความยากในการแสดงของผมคือต้องทำเป็นไม่กลัวนี่ล่ะครับ ทั้งที่จริงๆ ผมกลัวมาก

พวกคุณได้เรียนรู้อะไรจากการแสดงในซีรีส์เรื่องนี้บ้าง

รยูซึงรยง : ผมได้เรียนรู้ว่าความโลภของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด มีความอยากได้อยากมีอยู่ตลอด สำหรับตัวละครโจฮักจู ในเวลาเดียวกันก็เป็นตัวละครที่มีความชั่วร้ายอยู่ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการรับบทตัวละครนี้ก็คือ เมื่อคุณมีความเชื่อในสิ่งที่ผิด มีความโลภ มันก็ไม่ต่างอะไรจากปีศาจร้าย

แบดูนา : สำหรับฉัน บทบาทและหน้าที่ของผู้หญิงในสมัยโชซอนนั้นน้อยมากค่ะ ไม่แน่ใจว่าทุกคนรู้หรือเปล่าว่าในสมัยโชซอนคนเกาหลีนับถือลัทธิขงจื๊อ ทำให้ผู้หญิงห้ามทำงานข้างนอกและไม่สามารถประกอบอาชีพได้ แต่บทซอบีของฉันมีอาชีพเป็นพยาบาล ซึ่งแตกต่างจากผู้หญิงในยุคนั้นค่ะ

จูจีฮุน : จริงๆ บทองค์รัชทายาทที่ผมได้รับก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องการอำนาจเหมือนกันนะครับ แต่พอออกจากพระราชวังและได้เห็นความยากลำบากของประชาชนที่กำลังอดอยาก ผมเลยรู้ว่าอำนาจและความโลภไม่ใช่สิ่งสำคัญ และถ้ามองอีกมุมหนึ่ง คนที่เป็นซอมบี้เขาก็ไม่ได้อยากเป็นซอมบี้หรอกครับ แต่เขาติดเชื้อมา จึงทำให้เขาขาดสติและทำร้ายคนอื่น ในทางกลับกัน มนุษย์ได้รับการศึกษาและมีความคิดมากกว่าซอมบี้ แต่บางครั้งเราก็ทำร้ายคนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง อันนี้เป็นประเด็นที่น่าคิดนะครับ

สำหรับคนที่ไม่เคยดูซีรีส์เกาหลีมาก่อน ทำไม Kingdom ถึงเป็นซีรีส์เรื่องแรกที่ควรจะดู

รยูซึงรยง : Kingdom เป็นซีรีส์ดราม่าพีเรียดก็จริง แต่มันมีธีมของเรื่องที่จะทำให้คนทั่วโลกสามารถเข้าใจร่วมกันได้ครับ ในแง่ของความโลภ ความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุดของมนุษย์ที่สามารถเข้าใจได้ในทุกวัฒนธรรม นอกจากนี้ผมคิดว่าคนที่ดูซีรีส์เรื่องนี้จะได้ซึมซับและทำความรู้จักกับวัฒนธรรมและประเพณีเกาหลีไปพร้อมๆ กันด้วย สำหรับประเทศไทยที่ไม่มีฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาวที่หนาวทรมานแบบติดลบ ผมคิดว่าคนไทยจะสามารถสัมผัสถึงความสวยงามของธรรมชาติผ่านซีรีส์เรื่องนี้ได้เช่นกันครับ

ข้อมูลจาก The Standard

MORE READ
COMMENT